Author Archives: doifarm.com

น้ำปานะ ๘ อย่าง (อัฏฐปานะ)

ในพระวิน้ัยปิฎก มหาวิภังค์ โภชนาวรรค ว่าด้วยเรื่อง “การฉันโภชนะ (อาหาร) ในเวลาวิกาล” …พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทหรือพระวินัย สำหรับพระภิกษุ ว่า “ก็ ภิกษุใดเคี้ยวของเคี้ยว หรือฉันของฉันในเวลาวิกาล ต้องอาบัติปาจิตตีย์” (วิ.มหา. (ไทย) ๒/๒๔๘/๔๐๕) คือ ห้ามฉันอาหารหลังเที่ยงไปแล้ว แต่ทรงอนุญาตให้สามารถฉัน (ดื่ม) “น้ำปานะ” ได้ ดังที่ปรากฎในพระวินัยปิฏก มหาวรรค เภสัชชขันธกะ (พระไตรปิฎกซีดีรอม มจร. เล่มที่ ๕ ข้อ ๓๐๐ หน้า ๑๓๑) ความว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำอัฏฐบาน คือ๑. น้ำมะม่วง๒. น้ำหว้า๓. น้ำกล้วยมีเมล็ด๔. น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด๕. น้ำมะซาง๖. น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น๗. น้ำเหง้าบัว๘. น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำผลไม้ทุกชนิด เว้นน้ำต้มเมล็ดข้าวเปลือก ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำใบไม้ทุกชนิด เว้นน้ำผักดอง ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำดอกไม้ทุกชนิด เว้นน้ำดอกมะซาง […]

ผักหวาน

ผักพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมสำหรับชาวเหนือ และชาวอีสานของไทยอีกชนิดหนึ่งคือ “ผักหวาน”ผักหวาน เป็นพืชยืนต้นที่มีช่วงเวลาผลัดใบระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนกระทั้งถึงเดือนมกราคม และเริ่มผลิตาแตกยอดอ่อนในช่วงหน้าแล้งยาวไปจนถึงช่วงกลางฤดูฝน หรือถึงประมาณเดือนกรกฎาคม ซึ่งหลังจากนั้นใบจะแก่เป็นสีเขียวเข้ม แต่เราสามารถเก็บผลอ่อนของผักหวานมาต้มหรือนึ่งรับประทานได้ คู่ขวัญของผักหวานคือ “ไข่มดแดง” ซึ่งจัดว่าเป็นอาหารหายากและมีเพียงช่วงฤดูกาลเท่านั้นนอกจากนี้ ผักหวานยังแกงกับปลาแห้งให้รสชาติของกลิ่นผักที่มีลักษณะเฉพาะ เราสามารถนำผักหวานมาผัดน้ำมันหอยได้รสโอชา เป็นอีกเมนูหนึ่ง “ผักหวาน” แม้จะเป็นผักที่เกิดขึ้นตามป่า-เขา แต่เราสามารถเพาะปลูกเองได้เหมือนผักสวนครัวทั่วไป และถ้าเราเด็ดยอดและใบแก่ออก พร้อมทั้งให้น้ำตลอด ต้นผักหวานก็จะแตกยอดและสามารถเก็บรับประทานได้ตลอดปีเช่นเดียวกัน